นวัตกรรมการศึกษาที่ยึดแนวความคิดพื้นฐานเป็นหลัก
|
สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ (บุญเกื้อ ควรหาเวช. 2520 : 10-11)
2.1 ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Difference) 2.2 ความพร้อม(Readiness) 2.3 การใช้เวลาเพื่อการศึกษา (Use of Time) 2.4 การขยายตัวทางด้านวิชาการและการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากร |
การจัด การศึกษาตามแผนการศึกษาแทบทุกฉบับ มุ่งให้ความสำคัญในเรื่องความแตกต่างระหว่าง บุคคลโดยพิจารณาความถนัด ความสนใจ ความสามารถ ตลอดจนบุคลิกลักษณะของผู้เรียน แต่ละคนเป็นเกณฑ์ นวัตกรรมการศึกษาที่เกิดขึ้นเพื่อสนองแนวคิดพื้นฐานด้านนี้มีหลายอย่างคือ 2.1.1 การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded School) 2.1.2 เครื่องสอน (Teaching Machine) 2.1.3 บทเรียนสำเร็จรูปหรือบทเรียนด้วยตนเอง (Programmed Text Book or Programmed Instruction) 2.1.4 สื่อประสม (Multi-media ) หรือชุดการสอน (Learning Packages) 2.1.5 การสอนแบบเป็นคณะ (Team Teaching) 2.1.6 การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School Within School) 2.1.7 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction) 2.1.8 ชุดการสอนย่อย (Minicourse)
2.4 การขยายตัวทางด้านวิชาการและการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากร
ปัจจุบันนี้การขยายตัวทางด้านวิชาการมีมากและ รวดเร็วมากมีการคิดค้นวิชาการใหม่ ๆ แปลก ๆ เพื่อสนองตอบความต้องการของสังคม โดยเฉพาะวิชาการด้านวิชาชีพ และการ ใช้เวลาในการเรียนก็แตกต่างจากเดิมมาก วิชาที่ใช้เวลาเรียนสั้น ๆ ซึ่งอาจอยู่ในลักษณะ การฝึกอบรม การเสริมความรู้ การศึกษาแบบอิสระ มีเพิ่มมากขึ้นจำนวนผู้เรียนก็เปลี่ยนไป คือ แต่เดิมอัตราการเพิ่มของประชากรมีน้อย ระยะหลัง ๆ การเพิ่มมีมากเนื่องจากอัตรา การเกิดสูง แต่ในปัจจุบันการคุมกำเนิดได้ผลมาก อัตราการเกิดก็ต่ำทำให้อัตราการเพิ่ม ของประชากรน้อยด้วย นวัตกรรมที่นำมาใช้จัดการศึกษา จึงแตกต่างกันไป ตามองค์ประกอบ เหล่านั้น นวัตกรรมการศึกษา*ี่เกิดขึ้นเพื่อสนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ มีดังนี้ 2.4.1 มหาวิทยาลัยเปิด (Open University) 2.4.2 การเรียนทางสื่อมวลชน (Mass Communication Education) อันได้แก่ การเรียนทางวิทยุ การเรียนทาง โทรทัศน์ การเรียนทางไปรษณีย์ ตลอดจนการเรียนจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ 2.4.3 สื่อประสม (Multi-Media ) หรือ ชุด การสอน (Learning Packages) |